วันนี้พี่แคชแม็กซ์จะพาทุกคนมาศึกษาข้อดีและข้อเสียของทองทั้ง 3 สี นั่นก็คือ ทองคำ, ทองคำขาว และโรสโกลด์ เพื่อเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจก่อนจะลงทุนซื้อทองมาเก็งกำไร หรือนำมาเป็นเครื่องประดับส่วนตัว โดยทองแต่ละประเภทจะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรกันบ้าง เรามาดูกันครับ
ทองคำ (Yellow Gold)
ผลิตมาจากทองคำเพียวๆ บวกกับทองแดง (Copper) และสังกะสี (Zinc) ยิ่งทองคำมี K มากเท่าไร ก็จะยิ่งมีส่วนผสมของทองคำมากตามไปด้วย
ข้อดี
– มีโอกาสแพ้ของผิว (Hypoallergenic) น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับทองคำทั้ง 3 สี
– ดูแลง่ายได้ที่สุด ในทองทั้ง 3 สี
– เพิ่ม-ลดไซส์แหวนได้สะดวกที่สุด เพราะมีเนื้อนิ่มกว่า
– เหมาะกับผู้สวมใส่ที่มีผิวเข้ม เช่นคนเชื้อสายไทยและคนเอเชีย
ข้อเสีย
– บางท่านอาจไม่ชอบใส่แหวนสีเหลือง
ทองคำขาว (White Gold)
เป็นอัลลอย (Alloy) หรือโลหะผสมชนิดหนึ่ง ที่ผลิตมาจากการรวมตัวของทองคำบวกกับโลหะที่มีเนื้อสีขาว เช่น นิกเกิล (Nickel) เงิน (Silver) และพาลาเดียม (Palladium)
ข้อดี
– มีความทนทานมากกว่าทองคำ เพราะมีส่วนผสมของโลหะที่แข็งแรงกว่า
– ได้รับความนิยมมากกว่าทองคำ โดยเฉพาะสำหรับแหวนเพชร
– เหมาะกับผู้สวมใส่ที่มีผิวขาว เช่น คนเชื้อสายจีน และฝรั่ง
ข้อเสีย
– อาจจะต้องนำมาชุบโรเดียมใหม่ทุกๆ 3-5 ปี เพื่อให้ดูเสมือนใหม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่าย
โรสโกลด์/พิงค์โกลด์ (Rose Gold/Pink Gold)
ส่วนผสมหลักที่ทำให้โรสโกลด์ดูมีสีชมพู คือ ทองแดง (Copper) ยิ่งใส่ทองแดงมากเท่าไร ยิ่งทำให้ทองคำดูมีสีแดงมากขึ้นเท่านั้น โดยปกติส่วนผสมที่นิยมใช้กันในโรสโกลด์ 18K คือ ทองคำ 75% และทองแดง 25%
ข้อดี
– ได้รับความนิยมอย่างมาก ในกลุ่มวัยรุ่นและคนวัยทำงานยุคใหม่
– เป็นทองคำที่ดูโรแมนติก เพราะมีสีแดงอมชมพู
– มีความทนทานสูงสุด ในทองคำทั้ง 3 สี เพราะมีส่วนผสมของทองแดง
– เหมาะกับผู้สวมใส่ทุกสีผิว
ข้อเสีย
– ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ทองแดง