เชื่อว่าหลายคนเคยเข้าใจว่า ‘จำนำ’ กับ ‘ขายฝาก’ คือเรื่องเดียวกัน เมื่ออยากจำนำทอง บางคนจึงไปร้านทองแทนที่จะไปโรงรับจำนำ อาจเพราะเห็นเป็นร้านทองโดยตรง ทั้งที่ความเป็นจริงร้านทองนั้นอาจเป็นการขายฝากไม่ใช่การจำนำ
การจำนำ หมายถึง
การที่บุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า ‘ผู้จำนำ’ ส่งมอบสังหาริมทรัพย์ให้อยู่ในความครอบครองของอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า ‘ผู้รับจำนำ’ เพื่อเป็นการประกันการชำระหนี้ที่ผู้จำนำเป็นหนี้ผู้รับจำนำ
โดยทรัพย์จำนำ ได้แก่
สังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์มีค่าที่เคลื่อนที่ได้ แบ่งเป็น ‘ทรัพย์มีค่า’ เช่น ทอง เพชร และพลอย เป็นต้น และ ‘ทรัพย์เบ็ดเตล็ด’ เช่น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป นาฬิกา และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ในขณะที่การขายฝาก หมายถึง
การที่บุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า ‘ผู้ขายฝาก’ ตกลงทำสัญญาซื้อขาย โดยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจะตกไปเป็นของอีกบุคคลหนึ่งทันที ซึ่งเรียกว่า ‘ผู้ซื้อฝาก’ แต่ยังมีข้อตกลงกันว่าผู้ขายฝากสามารถไถ่ทรัพย์คืนได้ในเวลาจำกัด
ซึ่งทรัพย์สินในการขายฝากเป็นได้ทั้งอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ เช่น บ้าน หรือ ที่ดิน และทรัพย์มีค่าที่เคลื่อนที่ได้ ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น โดยทรัพย์ที่มีราคา 500 บาท ขึ้นไป จะต้องมีการวางมัดจำ และทำหลักฐานเป็นหนังสือ
ทั้งนี้ในส่วนของทรัพย์จำนำ มีการคิดอัตราดอกเบี้ยตามพระราชบัญญัติโรงรับจำนำ พ.ศ.2505 กำหนดให้คิดอัตราดอกเบี้ย เงินต้น 2,000 บาทแรก คิดอัตราดอกเบี้ย 2% ส่วนที่เกินจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ระยะเวลาจำนำส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4 เดือน 30 วัน หรือประมาณ 5 เดือน ขึ้นอยู่กับโรงรับจำนำเอกชนนั้น ๆ ด้วย
โดยสถานประกอบการที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงรับจำนำ จะต้องมีคำว่า ‘โรงรับจำนำ’ ‘สถานธนานุเคราะห์’ หรือ ‘สถานธนานุบาล’ ตามแต่ละประเภทของโรงรับจำนำอย่างเปิดเผย และต้องมีการจัดแสดงอัตราดอกเบี้ยไว้อย่างชัดเจน และไม่คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนน่าจะเห็นความแตกต่างระหว่าง ‘การจำนำ’ กับ ‘การขายฝาก’ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การเลือกจำนำหรือขายฝากจึงสุดแท้แต่ความสะดวกของแต่ละบุคคล ทั้งนี้หากคุณตัดสินใจจำนำทรัพย์สินกับโรงรับจำนำคุณภาพ
โรงรับจำนำ แคชแม็กซ์ จึงเป็นตัวเลือกให้คุณได้ดีทีเดียว ด้วยยืนหยัดให้บริการมากว่า 45 ปี และจำนวนสาขาที่มีถึง 8 สาขา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ถึงความมีมาตรฐานของโรงรับจำนำ ที่หลายคนให้ความไว้วางใจ